5 SIMPLE TECHNIQUES FOR อาหารเสริมและวิตามิน

5 Simple Techniques For อาหารเสริมและวิตามิน

5 Simple Techniques For อาหารเสริมและวิตามิน

Blog Article

>> มีส่วนช่วยในการเผาผลาญสารอาหาร เป็นองค์ประกอบของโคเอนไซม์จำเป็น มีความสำคัญในการเหนี่ยวนำกระแสประสาทส่วนปลาย

มีวิตามินและเกลือที่มีส่วนสำคัญในการควบคุมการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันเซลล์มิให้ถูกทำลาย ชะลอความแก่ ป้องกันมะเร็ง มาในรูปแบบเม็ดยา จึงรับประทานง่าย สามารถรับประทานเสริมกับการทานอาหารประจำวันได้

     อาการเมื่อขาด/กลุ่มเสี่ยง >> โลหิตจางแบบเม็ดเลือดแดงเล็ก ผิวหนังอักเสบ อาการซึมเศร้า ส่วนมากมักพบการขาดร่วมกับวิตามินชนิดอื่น 

แล้วถ้าอยากกิน จะกินอย่างไรให้ได้ผล? ว่าแล้วก็ ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ

พญ.จิรา ถาวรประดิษฐ์, วิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญต่อร่างกาย (...)

และควรศึกษาข้อมูลแนวทาง การรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ช่วงเวลาที่ควรรับประทาน หรือมีวิธีรับประทานอย่างไร เพราะอาหารเสริมผู้สูงอายุบางตัวควรรับประทานพร้อมอาหาร ถึงจะได้ผลดี หรือบางตัวต้องทานตอนท้องว่างเพื่อให้การดูดซับที่ดียิ่งขึ้นเป็นต้น

ร่างกายสามารถสร้างเองได้จากแบคทีเรียในลำไส้ ยกเว้น การรับประทานยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็จะทำให้แบคทีเรียในลำไส้ตาย

ช่วยบำรุงผิว ทำให้ผิวดูสุขภาพดี ช่วยลดการอักเสบของสิว ลดรอยจุดด่างดำ 

ทดแทนสารอาหารบางชนิดที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นได้

ข้อเสีย : มักมีน้ำตาลสูง หากรับประทานบ่อย ๆ อาจทำให้ฟันผุได้ จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวิตามินซี

>> มีความสำคัญในการสังเคราะห์และใช้กรดอะมิโน มีความเกี่ยวข้องกับการสัเคราะห์สารสื่อประสาท 

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผู้สูงอายุโดยทั่วไป ไม่ได้มีจุดประสงค์หลักเพื่อการรักษาโรค เหมือนกับยารักษาโรค แต่ประโยชน์ของอาหารเสริมผู้สูงอายุ เป็นตัวช่วยเสริมการดูแลบำรุงร่างกาย และป้องกันการเกิดโรคในอนาคต เพราะเมื่อมีอายุสูงมากขึ้น มักเกิดอาการเจ็บป่วย จากการขาดสารอาหารที่สำคัญไปหล่อเลี้ยงร่างกาย

วิตามินหรืออาหารเสริม บางอย่างแม้จะมีประโยชน์กับคนทั่วไป แต่อาจเป็นอันตรายกับคนที่มีโรคประจำตัว เช่น วิตามินซี ที่มีผลกระทบ ทำให้เลือดแข็งตัวช้าขึ้น ทั้งยังเร่งให้เม็ดเลือดแดงแตกได้ง่าย จึงเป็นอันตรายกับผู้ป่วยในกลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับเม็ดเลือดแดง หรือวิตามินเอ ที่ดูดซึมยาก คั่งค้างและสะสมในตับได้ง่าย จึงไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคไต เป็นต้น   

     แต่วิตามิน E มีข้อควรระวังสำหรับผู้ที่ไม่ได้อยู่ในการดูแลของแพทย์ อาหารเสริมและวิตามิน เนื่องจากวิตามิน E ส่งผลต่อเลือด ทำให้เลือดออกง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นการรับประทานยาบางชนิด ยกตัวอย่างเช่นในผู้ป่วยบางรายที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือด เช่น วาร์ฟาริน แอสไพริน ซึ่งเป็นยาที่ทำให้เลือดออกง่าย หากรับประทานวิตามิน E เพิ่มเข้าไปอีกก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้เลือดออกง่ายขึ้น จึงควรอยู่ในการดูแลของแพทย์หรือเภสัชกร

Report this page